เครดิต Images ชีพธรรม
ฟังดูเหมือนเรื่องตลกนะ ที่คนๆหนึ่งจะแค่จดโดเมน แล้วเริ่มสร้างเรื่องขึ้นมา กำหนดคาแรกเตอร์ตัวเอง
จุดขายก็คงเป็นเรื่องของ หน้าตาดีมีรถขับ โทรศัพท์ก็ iPhone ล้อเล่นนะครับ
Redtor เริ่มจากการเล่าเรื่องของตัวเอง ผ่านตัวละคร ตัวหนึ่งที่ชื่อว่า จอห์น ซึ่งมาจากครอบครัว
ที่ยากจน จอห์นเองจากบท มีความสามารถหลายอย่างทั้ง เล่นดนตรี แต่งเพลง ร้องเพลงก็เพราะ
ทำเว็บก็ได้ ทำวิดิโอก็เป็น ด้วยความที่บทละคร ผ่านเรื่องร้ายๆ มาเยอะทำให้บทความของเขา
มีความกลัวน้อยมาก จนกล้าพอที่จะเขียน เพราะเขาคิดว่าชีวิตเขาก็ไม่มีอะไรอยู่แล้ว ไม่รู้จะเสียอะไร
ดังนั้น จอห์น เรดเตอร์จึงมีต้นทุนต่ำมาก บวกกับอยู่ในแวดวงมานานพอสมควรและเป็นเจ้าแรกๆ ที่เขียน
บล็อกในเมืองไทย redtor.com จดปี 2005 น่าแปลกประเด็นหลักกลับพบว่า เค้าจดโดเมนมาเพื่อ
เขียนเรื่องของเขาทั้งที่สมัยก่อน มักจะใช้บล็อกฟรี แต่เขามองว่าเกือบ 6 ปีที่แล้วเรื่อง Blog Branding
ถ้าเขาสามารถคิดอะไรได้ก่อนเพื่อน เมื่อเทียบกันปัจจุบัน แปลว่าเขายิ่งจะไปไกลกว่าเดิมเท่านั้น
จอห์นเองเริ่มจดบันทึกพฤติกรรมตัวเอง ทั้งเรื่องส่วนตัว และหาเงินออนไลน์ จากจุดเล็กๆ เขียน
อย่างสม่ำเสมอ แม้บางทีร่อแร่ แต่ก็ยังเขียนเรื่อยมา แปลว่าตื่นมาตอนเช้าเขาต้องมาแถ ให้คนอ่านได้อ่าน
เขาฝึกตัวเองอย่างนั้น เพราะเขาเชื่อว่าสารที่เขาส่งไปมันต้องมีคนอ่าน อย่างน้อยเขาเองก็อาจจะบันทึก
ความทรงจำของเขาเอาไว้เช่นกัน
ข้อมูล REDTOR ปีหนึ่งหายไปไหน ไม่มีใครอยากสูญเสียความทรงจำเหล่านั้นไปหรอก
แต่เริ่มแรกของการบันทึกนั้นได้ถูกบันทึกโดย บล็อก Ware หลายๆตัว เขาพยายามที่จะหาบล็อกที่
ที่ลงตัวที่สุดจนใช้ WordPress แน่นอนว่าเขาไม่ใด้เชียวชาญถึงขนาดดึงดาต้าเบส มาใช้
ร่วมกันได้ ภาพเด็กน้อยปีหนึ่งเลือนหายไป เหลืออยู่ Memory ชิ้นสุดท้ายที่เขายังมีข้อมูล
ออฟฟิศแรก ที่โนนศาลา
จุดเปลี่ยนของการหาเงินออนไลน์ สุดท้ายคือการเอาชนะ ถ้าคุณเป็นหมาจนตรอกตัวหนึ่ง
คุณคงไม่มีอารมณ์ใปนั่งแช่ในเมเจอร์ทั้งวัน สิ่งที่คุณทำได้คือ ถึกๆๆๆๆๆ จนเจอทางออก
ใส่ความจริงใจเข้าไปในบทความ เกือบห้าปีที่ผ่านมา บางทีก็ไร้สาระแต่อย่างน้อยก็ทำให้คนอ่าน
สัมผัสถึงตัวคุณได้ REDTOR.COM จึงเหมือนเพื่อน หรือพี่คนหนึ่งที่ดันดาราตัวเองอย่างน่าเกียจ
ผ่านโลกอินเตอร์เน็ต
เพราะเหตุใดจึงต้องใส่ตัวเองลงไปในบล็อก นั่นเป็นสิ่งที่ผู้อ่านสัมผัสได้ว่าพูดเขียนกำลังทำอะไร
อยู่มันทำให้สิ่งที่กล่าวถึงน่าเชื่อถืออาจจะเป็นภาพประกอบ และเป็นภาพจริง มันสามารถอธิบายได้ดี
กว่าการกล่าวมาลอย เช่นบอกว่าซื้อรถ ก็ถ่ายภาพรถ ทำบ้านก็บอกว่าทำบ้าน มันทำให้บทความมีพลัง
มากขึ้น
ทุกๆคนสามารถเป็นเหมือน จอห์น เรดเตอร์ได้ ถ้าคุณทำให้เขาเห็น มากกว่าคุณพูดให้เขาเชื่อ
พูดในสิ่งที่คุณอยากพูด เขียนในสิ่งที่คุณเชื่อ เมื่อนั้นความคิดคุณจะน่าสนใจ มากกว่าท่องตำรามา
การท่องตำรามาเล่าให้คนอื่นมา ใช้ได้ในมหาลัยเท่านั้น จะท่องมาทำไมในเมื่อหนังสือเล่มนี้ตูก็มี
พลังของการโน้มน้าวไม่ใด้อยู่ที่ความรู้ท่วมหัว แต่อยู่ที่ประสบการณ์ของคุณนั่นเอง
ทำชีวิตให้น่าสนใจเพื่อน เดี๋ยวนักข่าวก็มาเอง
ปล.ไม่ใด้บอกให้ไปขุดรูอยู่นะ..
Comments are closed.