5 ข้อ ที่คุณควรศึกษา ก่อนเลือกสินค้า Amazon มาขาย

Author:

สวัสดีก่อนวันคริสมาสต์หนึ่งวันครับ วันนี้ผมเขียนบล็อกนี้ในวันที่ 24 ของไทยนะครับ ซึ่งก็ถือว่าเหลือเวลาอีกหนึ่งวันแล้ว และกำลังนับถอยหลังเข้าสู่ปี 2555 นะครับ ปีอะไรจะอารมณ์ดีขนาดนั้น ผมเองพยายามลิตส์ออกมานะครับว่าสินค้าที่ที่เราขายนั้นจะต้องศึกษาด้านใดบ้างจากหน้าแรกของ Amazon และผมจะพยายาม List มันออกมาตามลำดับนะครับเท่าที่

ผมจะมีความสามารถ และคุณเองยังสามารถไปศึกษาเพิ่มเติมได้นะครับ จาก ตัวอย่างหน้านี้ ซึ่งเป็นหน้าสินค้าที่ขายสินค้าหมวด Electronic ของ Amazon นะครับ ซึ่งในแต่ละหมวดจะมีเงื่อนไข และการจัดเรียงสินค้าที่ต่างกันครับ เช่น 25 ชิ้นต่อหน้า หรือ 12 ชิ้นต่อหน้านะครับ สำหรับสินค้าของ Amazon

จากความเชื่อสินค้าขายดี (Bestseller) คือสินค้าที่ขายได้  ส่วนใหญ่แล้วเรามักจะเลือกสินค้านั้นมาขายครับ ซึ่งเป็นเรื่องจริง แต่ไม่ครอบคลุมสินค้าทั้งหมดนะครับ ซึ่งสินค้าจะแสดง 10 รายการประมาณ 10 หน้าซึ่งถือว่ายังเป็นจำนวนสินค้าที่น้อยอยู่นะครับนะครับ ยังไม่สาใจสำหรับการขายสินค้าทั้งหมดครับ  คุณเองสามารถอ่านเพิ่มได้จากบทความ ว่าด้วยหมวด Electronics ของ Amazon.com จะเห็นว่าการเลือกหมวด Best sellers นั้นได้ถูกจัดสินค้าที่เป็นหมวดหมู่ย่อยเท่านั้น

แต่หากคุณลองดูที่ ตัวอย่างหน้านี้  คุณจะพบสินค้าในหมวดย่อยถูกจัดเรียงกันหมดนะครับ เช่น กล้อง ทีวี ก็จะมาปรากฏที่หน้าเดียวกันครับ ทำให้เราสามารถหาสินค้าโดยรวมได้อย่างง่ายดายครับอย่างไรก็ตามเมื่อดู สินค้าหมวด Best sellers  นั้นจะสัมพันธ์กับ Most Popular นั่นเองครับ อาจจะกล่าวได้ว่า

สินค้าที่ขายดีจะมาปรากฏในเมนู Most Popular นั่นเองครับ แต่ว่าจะถูกรวมหมวดย่อยลงมาอีกทีครับ และใช้ข้อดีในเมนูนี้เพื่อมาหาสินค้าขายดี รวมหมวดย่อยๆนั่นเองครับ  เราสามารถประยุกต์ใช้เพื่อเลือกสินค้าดังนี้ครับ

Most Popular คือสินค้าที่ขายดี แบบรวมหมวดย่อย
  1. เลือกสินค้าที่เป็นแบบ Most Popular  หรือ New and Bestselling (มีในบางหมวดเช่น Cloting & Accoessories) เพราะว่าเป็นสินค้าขายดี หรือมาใหม่ครับ
  2. เลือก Rating ของสินค้าเพื่อกรองสินค้าออกมานะครับ อาจจะกล่าวได้ว่ามันคือ ดาวที่ User ให้นั่นเองครับ อย่างไรก็ต้องพิจารณาด้วยว่าสินค้ามาใหม่ยังไม่ Rating  มานะครับ เพราะยังไม่มีใครให้คะแนนสำหรับสินค้านั้น
  3. เลือกสินค้าตามราคาที่ต้องการ เช่น  Under $25 หรือ  $50 หรือ $50 & Above  เพื่อกรองเอาสินค้าดีๆ ทั้งราคาและค่าคอมครับ สำหรับเราว่าจะเลือกมาขายตัวไหน
  4. Custome Review ผมเองไม่ถนัดตัวนี้มาก หรือพูดง่ายผมเองไม่คิดจะเลือกเมนูนี้ เพราะถ้ามี Review จะต้องแลกด้วยการที่สินค้าตัวนี้ขายมานานแล้วครับ จึงมีคนซื้อเยอะ ซึ่งจะสัมพันธ์กับคู่แข่งที่เพิ่มขึ้นทุกวันครับ
  5. Shipping Option เป็นข้อที่ผมสนใจน้อยเหมือนกันครับ ดูคร่าวๆก็ได้ครับ สินค้าส่วนใหญ่ที่ขายถ้าเป็น Electronics มักจะส่งที่ USA เท่านั้นครับ ส่วนสินค้าอื่นๆก็ต้องมาดูกันอีกทีครับ แต่ส่วนใหญ่เรามักจะขายแล้วค่อยมาดูอีกครับ ว่าได้จัดส่งหรือเปล่าเท่านั้นเองครับ

ผมอาจจะกล่าวโดยสรุปก็ได้ครับ สินค้าที่เลือกขาย จะต้องเป็นสินค้าที่มีราคาที่เหมาะสม ( สำหรับผมครับ) เป็นสินค้าอยู่ Most Popular ที่กว้างกว่านั่นเองครับ เป็นสินค้าที่มี Rating  ผมเลือกจากสองดาวขึ้นไป ประกอบกับดูอันดับที่ Most Popular ครับ

ส่วน  Shipping Option และ  Custome Review ผมไม่เน้นครับดังเหตุผลที่ยกมาข้างต้น  แต่ถ้าเป็นสินค้าพวกเสื้อผ้าผมจะแยกออกครับ ว่าอันไหนจำเป็นและอันไหนมาใหม่  New and Bestselling เพราะอย่างที่ทราบกันดีครับว่า แฟชั่นมันเปลี่ยนเร็ว อีกทั้งดูฤดูกาลที่ต่างประเทศด้วยครับ ว่าต้อนนี้ หนาว หรือร้อน หิมะตก พายุ เป็นองค์ประกอบในการเลือกสินค้าด้วยครับ    คุณสามารถแชร์ความเห็นได้ที่ Facebook Comment นะครับ .. Merry X’mas ครับทุกท่าน..