บ๊ะ !! ผมว่าหัวข้อโพสนี้ คงโดนใจใครหลายๆคน ในช่วงเวลาที่ยอดหายกำไร หดแบบนี้ น่าจะเป็นโพสที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะว่ามันอาจจะตรงใจกับหลายๆคนที่ท้อ และหมดกำลังใจ สังเกตผมไม่มีใส่รูปประกอบมาหลายโพสแล้ว เพราะผมไม่ชอบรูปอะไรเลย นอกจากรูปผม 55 ผมไม่อยากให้ redtor.com มีรูปสักรูปเสียด้วยซ้ำ เพราะว่าผมอยากให้คนอ่านเนื้อหามากกว่่า การดึงดูดใจด้วยภาพ เพราะว่ามันไม่ใด้แสดงฝีมืออย่างเต็มที่ในการเป็นบล็อกเกอร์
เพื่อนๆสังเกตใหมว่าเดียวนี้วงการ internet Marketing นั้นเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก และก็ยังเยอะมากเรียกว่าไปเร็วมาเร็ว จนแทบปรับตัวไม่ทั้น แม้กระทั้งการ Deindex ของ Google ก็เรียกว่าทำยังไม่ทันได้เงินคืน หรือได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ ก็แบนกันเสียแล้ว เห็นไหมครับเพื่อนๆ ว่ามันเกิดขึ้นเร็วมาก หรือแม้แต่ตัว Blog อย่าง WordPress ก็แบน แค่เพียงสมัครหนึ่งวันเท่านั้นเอง
สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นอยู่แล้วครับ เพราะดูแนวโน้มแล้ว อาจจะมาช้ามาเร็วเหมือนภาวะโลกร้อนหรือแผ่นดินไหว ที่เจอกันอยู่นี้แหละครับ ดังนั้นการถนอมเว็บก็เหมือนการถนอมอาหารนั้นแหละครับ ที่คุณจะต้องถนุถนอมมันอยู่ให้นานมากที่สุด เรื่องนี้มันเหมือนการกรองคนทำเว็บโดยธรรมชาติก็ว่าได้นะครับ เพราะคนที่อดทนและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เท่านั้นเองจึงจะสามารถ เอาตัวรอดได้
มีใครกำลังหนีการตกชั้น internet Marketing บ้าง ?เป็นเรื่องไม่ง่ายครับ ที่จะเอารอดได้จากผลกระทบดังที่กล่าวมาข้างบน เพราะว่าจริงๆแล้วคนที่จะรอด คือคนเก่งเท่านั้นครับ คนที่พึ่งพาตัวเองได้ พึ่งพาทรัพยากรเว็บตัวเองครับ อย่างเช่นคนอื่นใช้ Blogspot เวลามีคนปั่น Blogspot . Effect มันจะวิ่งมาถึงคุณโดยอัตโนมัติครับ มันเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกันหมด เพราะถ้ามันลดอันดับมันก็ลดหมด เหมืแนอย่าง Astore ครับ อ่านเพิ่มที่ No body Talking about an “Astore” เรื่องแบบนี้มันห้ามกันไปได้ครับ เพราะว่ามีแต่คนอยากได้เหมือนกัน
การค้นหาวิธีการของตัวเอง นำมาซึ่งความอยู่รอด อันนี้จริงครับ ถ้าเราทำตามเขาตลอดก็จะได้ออกมาเหมือนกัน และควบคุมจำนวนไม่ใด้ครับ สิ่งที่สำคัญที่สุด เก็บความลับของตัวเองให้ดีครับ ถ้าปล่อย หนึ่งคนมันจะกลายเป็นปากต่อปากครับ เป็นเรื่องที่เสียหายเป็นอย่างยิ่ง แต่สำหรับผมแล้วกลับต้องคิดอะไรที่ยากกว่าเดิม มากกว่าที่เคยเป็น ผมเห็นหลายคนฉีกมาทำ CPA ก็ยังทำได้สวยอยู่นะ ใช้พื้นฐานเดิมที่มี แล้วเอามาปรับนิดหน่อยก็สามารถอยู่รอดได้
ความยากมันนำมาซึ่งการกรอง กรองคนทำ คนที่ไม่ประสบความสำเร็จ ก็หายไปเรื่อยๆจนสุดท้าย ก็เหลือแต่พวกเขี้ยวตันทั้ง คนทำเว็บทำมาหลายปี ก็เหมือนเว็บที่มี PR ย่อยเอาตัวเองรอดได้อยู่แล้ว ส่วนคนที่หนีการตกชั้น รายได้หายก็อาจจะกลับเข้าไปทำงานประจำ มันต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ถ้าไม่สามารถหาวิธีการใหม่ๆ ในการทำเงินของตัวเองในรูปแบบใหม่ได้ คิดแล้วเศร้า…