จริงๆ แล้วคำสองคำนี้มีความใกล้เคียงกันครับ เขามักจะรวมๆกันว่าเพ้อฝัน
แต่เวลาเขาอยากจะเน้นอะไรนักแล้วเขามักจะเน้นคำนั้นครับ เช่น ไอ้นี่มันเพ้อ
ส่วนใหญ่แล้วตัวเราเองมักจะมอง ว่าเราฝันครับ แต่คนนอกจะมองว่าเราเพ้อ
ยกตัวอย่าง คนเพ้ออยากได้รถ แต่ รอถูกหวย คนฝันกลับหาเงินไปซื้อ
ซึ่งทั้งสองคนนั้นล้วนแต่คิดเรื่องเดียวกัน
ดังนั้นสาระคำนี้จึงจะขึ้นอยู่กับเจ้าตัวมากกว่าครับ ว่าจะทำออกมารูปแบบไหน..
เช่น เจ้าตัวอยากรวย แต่ไม่ยอมทำอะไรสักอย่าง แล้วฝันครับ คนอื่นมองว่าเพ้อครับ
แต่ถ้าเจ้าตัวยังไม่รวย แต่ทำงานครับ คนอื่นก็มองว่าเพ้อได้เหมือนกันครับ
เพราะไม่คิดว่าหมอนี่จะทำได้
นึกถึงเมื่อก่อนผมก็เพ้อ ครับ แต่เดินไปบนกรอบของความฝัน
มีคนอีกมาก ญาติพี่น้อง รอดูความฝันของเรา.. อย่าให้ใครว่าเพ้อ
กรอบของความฝัน จะต้องอิงกับความเป็นไปได้เช่นกันครับ การเพ้อก็เป็นเรื่องดีครับ
การเพ้อก่อให้เกิดความฝันในรูปแบบที่เป็นไปได้จะดีแค่ไหนถ้าเพ้อ 10 เรื่อง
แล้วทำฝันให้เป็นจริงสัก 5 เรื่อง ดีกว่าไม่เคยเพ้ออะไร..
แต่เพ้อเจ้อนี่ไม่เอานะครับ ผมเองละคนหนึ่งไม่คุยด้วย… ผมถือว่าผมเพ้อเจอจนรักษาหายมาเป็นฝันแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่พวกคุณเท่านั้น เริ่มเพ้อฝันกันหรือยัง..
และที่สำคัญแยกให้ออกด้วยว่ากำลังฟังคนเพ้อหรือคนฝัน ..
Comments are closed.